Project Bus Cafe Art
ร้าน Project Bus Cafe Art ที่เรามารีวิว มาเสนอครั้งนี้ เป็นร้านจากรถเมย์ที่เราเคยนั่ง กลายมาเป็นร้านคาเฟ่ ที่ขายกาแฟ มีสไตล์ร้านชัดเจนมากเลยที่เดียว อีกทั้งบาริสต้าคุณบัส เป็นทั้งบาริสต้า และเป็นทั้งเจ้าของร้าน บอกเลยว่าถ้าได้คุยกับพี่เขาสักพักจะรู้เลยว่าคลั่งไคล้กับกาแฟและภูมิใจกับร้าน ร้านนี้ขนาดไหน
SLOW BAR
ป้ายบนหลังคา SLOW BAR ถ้าเดินเข้ามาที่ร้าน ป้ายอักษร SLOW BAR จะเห็นเด่นชัด (จริงๆ ชัดกว่าชื่อร้าน Project Bus Cafe Art เสียอีก) ใครเห็นใครก็ว่าไม่ได้กินเร็ว ๆ แน่ ๆ แต่จริง ๆ slow bar ไม่ได้ช้าอะไรขนาดนั้นครับ แค่บ่งบอกถึงจากชงเครื่องดื่มที่ใช้อุปกรณ์และการชง อย่างละเอียดอ่อนพิถีพิถัน ต้องมีการชั่งตวง อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่บรรยากาศร้าน และลีลาการชงของบาริสต้านั้นไม่ได้ทำให้เราคิดว่ามันช้าแต่อย่างใด
คุณบัส เจ้าของร้าน และ บาริสต้า
เมื่อเข้ามาบนร้าน ก็จะพบกับบาร์กาแฟที่อยู่บนรถเมย์ และจะพบกับคุณบัส ค่อยบริการ ตั้งแต่แนะนำเครื่องดื่ม เมล็ดกาแฟ และชงกาแฟอยู่บนตัวรถ
คุณบัส นอกจากชื่อแล้ว ธุรกิจครอบครัวก็เป็นกิจการเกี่ยวกับรถเมย์ แต่ทางคุณบัสเองก็ได้ฉีกแนวของที่บ้านออกมาเป็นร้านกาแฟที่ผสมผสานกาแฟที่ตัวเองชอบกับรถเมย์ได้อย่างลงตัว ผมเองได้คุยกับพี่แกสักพักหนึ่งก็ได้เห็นสีหน้าความภูมิใจเกี่ยวกับร้านของเขา รวมถึงการตัดสินใจของตัวเองที่ได้เปิดร้านนี้ขึ้นมา
แต่ก่อนคุณบัสเป็นพนักงานเอกชนครับ เหมือนคนส่วนใหญ่ และได้วางแผน ตั้งใจว่าอีก 5 ปีจะเปิดร้านกาแฟให้ได้ เจ้าตัวก็ผสมอุปกรณ์เกี่ยวกับกาแฟเองไว้เรื่อย ๆ ก่อนจะเปิดร้าน เมื่อถามเกี่ยวกับการตัดสินใจออกมาจากงานครั้งนั้นว่าคิดอย่างไรกับการตัดสินใจครั้งนั้น
คิดอย่างไรกับการตัดสินใจลาออกจากบริษัทครั้งนั้น
คุณบัส : ผมว่าผมตัดสินใจไม่ผิดนะครับที่เลือกจะลาออกจากบริษัท
ผม : ( มองไปรอบร้านและเห็นด้วยกับเขาว่าเขาคิดไม่ผิดจริงๆ )
คุณบัส : แต่ผมไม่แนะนำให้ลาออกแล้วมาเสี่ยงแบบผมนะครับ
ผม : ฮ่า ๆ ๆ
Mint Latte : มิ้นท์ลาเต้
ผมสั่งกาแฟมิ้นท์ลาเต้ครับ หอมมิ้นท์สดชื่น ที่มาพร้อมกับนมสดเย็น ๆ สีสันสดใส ถ้าใครไม่ชอบกาแฟจ๋า เมนูผสมกาแฟเมนูนี้ก็เป็นเครื่องดื่มที่น่าสนใจเลยทีเดียว
การชงกาแฟของที่นี้ใช้เครื่อง Aeropress นะครับ และเครื่อง Aeropress ของที่นี่ปรับแต่งหัวจ่ายกาแฟเป็นตัว Prismo เพื่อเพิ่มแรงดันอีกด้วย (เท่ห์มาก ๆ เลยครับ)
Nicaragua : เมล็ดกาแฟคั่วกลางจากประเทศนิการากัว
มาถึงประเด็นสำคัญของวันนี้นั้นคือกาแฟดริปจากร้าน Project Bus Cafe Art วันนี้มีกาแฟจากต่างประเทศมากมาย ผมเลือกกาแฟคั่วกลางจากประเทศนิการากัว
ขั้นตอนการชงของคุณบัส เริ่มต้นเลย ให้เราดมกลิ่นของเมล็ดกาแฟก่อนเลยครับหอมเปลือกไม้ ยั่ว ๆ ก่อนที่พี่เขานำเมล็ดกาแฟไปบด เรียกว่าซึมซับกลิ่นไปก่อนครับ
จากนั้นก็เข้าพิธีกรรมชงกาแฟดริป เริ่มต้นจากการล้างกระดาษกรองตามด้วยน้ำร้อนตามอุณหภูมิที่ต้องการ ปริมาณตามอัตราส่วนที่คิดค้นมาแล้วจากที่ร้าน ในระหว่างที่ชงเสมือนกับว่าเราได้อยู่ในรถที่กับพาทัวร์ไปในโรงคั่วกาแฟ หอมมากกกกกก
หลังจากนั้นไม่นานคุณบัสก็นำแก้วที่มาพร้อมกับปลายน้ำกาแฟดริปนิดนึงประมาณ 1 ช๊อต กระดกเข้าไปหวานมากกก ไม่มีความขมเท่าไร แต่หอมและมีความหวานอร่อยจริง ๆ จากนั้นคุณบัสก็ได้เสิร์ฟกาแฟดริปจริง ๆ แล้วก็ได้กาแฟดริปจากนิการากัว มาลิ้มลอง 1 แก้ว มาแล้วก็เทใส่แก้วไปเลย เรียกว่าไม่รอช้าที่ดื่มด่ำของกาแฟแล้ว
กาแฟดริปแก้วนี้อร่อยมาก ถูกใจมาก ไม่รู้จะพูดอย่างไร ขออธิบายอย่างนี้ครับ มีความเข้มของกาแฟกำลังดี เปรี้ยวปลาย ๆ นิดหน่อย จิบไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ กลัวกว่ากาแฟจะหมดไว สลับกับการดื่มน้ำเปล่าตามไป ซึ่งพอดื่มน้ำเปล่าตามไป ย้ำนะครับว่าแค่น้ำเปล่าเย็น ๆ ความหวานของกาแฟยังตามมาด้วย
กาแฟดริปแก้วนี้ถ้าเปรียบเทียบว่าเป็นการแสดงโชว์บนเวที แสงไฟสปอร์ตไลท์ทุกดวงกำลังสาดส่องมาที่แก้วใบนี้แก้วเดียว คนรอบข้างแทบเหมือนกับไม่มาด้วย เพราะทุกอย่างของประสาทสัมผัสของเราจะโฟกัสอยู่แต่รสชาติกาแฟตัวนี้ ไม่รู้ความอร่อยมาจากพิธีกรรมการชงหรือบรรยากาศของร้านคุณบัสรึเปล่า สรุปง่าย ๆ ว่าดีมากกก
สรุปการรีวิว : ส่วนตัวผม 10/10 Aftertaste ก็ดี ทั้งบาริสต้า ทั้งบรรยากาศดีมากครับ ส่วนกาแฟมิ้นท์ลาเต้ส่วนตัวผมว่ามันหวาน ๆ ไปหน่อยแต่อาจจะเพราะผมชอบกาแฟที่ไม่ผสมน้ำตาลมากกว่า
ปล.กาแฟอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ
ผมชอบประโยคนี้มากเลยครับ
Menu บางส่วนครับ
บรรยากาศร้านกาแฟน่านั่ง มั้ยครับ
แผนที่ร้าน : Project Bus Cafe Art
Facebook : https://www.facebook.com/Project-bus-cafe-art-330105117588652/
เป็นอย่างไรกันบ้างกับร้านนี้ครับ เหมือนจะอวยเว่อร์เกินไปใช่มั้ยครับ ผมคิดว่าต้องลองไปพิสูจน์กันนะครับ ผมประทับใจมากและมั่นใจว่าจะกลับไปดื่มอีกครั้ง แน่ ๆ ขอบคุณสำหรับการรับชมนะครับบบบบ
Submit your review | |
ขอบคุณครับ