กาแฟดริป เรามารู้จักกับกาแฟดริปกันเถอะ กาแฟดริปคือ วิธีการชงกาแฟอย่างหนึ่ง คือการนำกาแฟสดคั่วที่บดแล้วมากรองด้วยกระดาษ ที่ผ่านน้ำร้อน การทำความสะอาดก็ง่าย บางครั้งจะเรียกวิธีการนี้ว่า ” Pour-over ” หรือที่เราได้ยินบ่อย ๆ ว่า ” Drip” ซึ่งขนาดกาแฟ-ปริมาณน้ำร้อน หรืออุปกรณ์การกรอง ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นอุปกรณ์อะไรที่ยุ่งยาก หาได้ทั่ว ๆ ไป สำหรับคนที่อยากชงดื่มมีวิธีการง่าย ๆ ดังนี้ครับ
กาแฟดริปเราจะชงได้อย่างไร ? นี้เป็นวิธีสำหรับคนที่เริ่มลองเริ่มรู้จักกับการดริปนะครับ (แบบจริงจัง อยู่ด้านล่างนะครับ)
กาแฟดริป หรือ ” Pour-over ”
อุปกรณ์เบื้องต้น
- กาแฟสดที่คั่วแล้วจะเป็นคั่วกลาง,คั่วเข้มเอาที่เราชอบยี่ห้อ ๆ ใด ก็ได้ เลือกชนิดที่บดมาแล้ว
- ภาชนะพลาสติกไว้วางกระดาษกรองหาซื้อได้ที่ร้านญี่ปุ่น 60 บาท
- กระดาษกรองหาซื้อที่ร้านญี่ปุ่น 60 บาทเช่นกันครับ ขนาดของกระดาษแล้วแต่ความต้องการ (ใหญ่ ๆ ไว้ก่อนดีกว่า)
- น้ำร้อน
- แก้วสำหรับดื่ม
วิธีการชง
- นำภาชนะพลาสติกที่ไว้วางกระดาษกรอง วางบนแก้ว
- นำกระดาษกรองวางบนพลาสติก(แก้วกรองพลาสติก)
- ใช้น้ำร้อนราดกระดาษ เพื่อนำกลิ่นที่ติดกระดาษออก
- นำน้ำร้อนที่ล้างกลิ่นกระดาษในแก้วทิ้งก่อน
- ใส่กาแฟที่บดแล้ว ขนาดดื่ม 1 แก้ว ปริมาณกาแฟประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ (11 กรัม) แล้วแต่ความชอบ
- เทน้ำร้อน ช้า ๆ วนไปรอบ ๆ ปริมาณน้ำประมาณ 150 มิลลิลิตร (จริง ๆ ตามความต้องการของเรานะครับ )
วิธีการชงกาแฟดริป (แบบจริงจัง)
สำหรับจำนวน ครั้งนี้จะนำเสนอการชงสำหรับเสิร์ฟ 1 แก้วใหญ่ ๆ นะครับ
อัตราส่วน 1 :15 (กาแฟบด 32g ต่อ น้ำ 480 มิลลิลิตร)
อุปกรณ์
- กาแฟสดที่คั่วแล้วจะเป็นคั่วกลาง,คั่วเข้มเอาที่เราชอบยี่ห้อ ๆ ใด ก็ได้ เลือกชนิดที่บดมาแล้วเลือกที่คั่วมาใหม่ ๆ จะดีที่สุดนะครับ
- ภาชนะกรอกควรจะเป็นเซรามิคเพราะมันสามารถรักษาอุณภูมิความร้อนได้นานกว่าพลาสติก
- กระดาษกรองหาซื้อที่ร้านญี่ปุ่น 60 บาท
- น้ำร้อน
- แก้วสำหรับดื่ม
- เครื่องชั่งดิจิตอล*
และนี้คือ 8 ขั้นตอนการชงกาแฟดริป
- วางกระดาษในกรวยกรองบนเครื่องชั่งดิจิตอล
- เทน้ำร้อนเพื่อล้างกลิ่นของกระดาษ และเป็นการทำให้กรวยกรองอุณภูมิสูงขึ้น และเทน้ำร้อนทิ้งไป
- นำกาแฟที่บดแล้ว 32 กรัมใส่พร้อมดริป
- รีเซทเครื่องชั่ง และเทน้ำร้อนประมาณ 50 มิลลิลิตร ให้ทั่ว ๆ กาแฟอย่างช้า ๆ
- หลังจากเท 30 วินาทีตัวกาแฟฟูขึ้นมา ให้เราคนกาแฟ
- เทน้ำร้อนอีก 430 มิลลิลิตร อย่างช้า ๆ เป็นลักษณะเกลียว หมุนไปอย่างช้า ๆ อย่างสม่ำเสมออย่างทั่วถึง
- ต่อมา นำยกตัวกรอกออกรอประมาณ 2-3 นาที
- เช็ดเก็บงานขอบแก้ว พร้อมเสิร์ฟ เชิญดื่ม
เพียงเท่านี้ก็ได้ดื่ม กับกาแฟดริป ที่เราชงเอง จริง ๆ แล้วเราได้เสพตั้งแต่การสูดกลิ่นกาแฟตั้งแต่แกะ ถุงกาแฟบด ตลอดจนถึงการดื่ม
ส่วนประวัติของกาแฟดริปเป็นยังไงอ่านต่อเลยนะครับ
ประวัติกว่าจะเป็นกาแฟดริปที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
กว่าจะเป็นกระดาษกรองที่เราดริปกันถึงปัจจุบัน กระดาษกรองนั้นได้ถูกสำรวจพบโดยนักประดิษฐ์กาแฟ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นไปได้ว่าสมัยนั้นคนชงกาแฟอาจจะไม่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากกระดาษกรองยังไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้น มาจนถึงปี 1843 กระดาษที่ทนต่อความเปียกชื่น แข็งแรงต่อกากกาแฟ และทนต่ออัตราการไหลของน้ำที่ต้องการ ก็ได้เกิดขึ้นมา..
ในปี 1885 Dr.Heinrich Boehnke-Reich ตีพิมพ์หนังสือชื่อ Der Kaffee in seinen Beziehungen Leben (Coffee and its Relationshop to Life) ซึ่งให้ความสำคัญในการใช้ ,วิธีการเตรียมกาแฟอย่างละเอียด Boehnke-Reich ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผ้ากรองถ้าไม่ได้รับการดูแล ทำความสะอาดให้ดีจะทำให้กาแฟมีกลิ่นหืนเมื่อนำไปชงกาแฟ การใช้กระดาษกรองจึงได้รับความนิยมและอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการได้รับความนิยมเพิี่มขึ้นของกาแฟทำให้ผลทางเศรษฐกิจในช่วงนั้นดีขึ้นมาด้วย ส่วนเมล็ดกาแฟสามารถบดละเอียดได้มากกว่าเดิมเมื่อใช้กระดาษในการชง ดังนั้นผู้คนจึงหันมาใช้กระดาษเพิ่มขึ้น และใช้ถุงผ้ากรองลดน้อยลง
จนกระทั่งปี 1908 นวัตกรรมที่แท้จริงก็เกิดขึ้นในการชงกาแฟด้วยการกรองกระดาษหรือที่เราเรียก กาแฟดริป ในปัจจุบันมี แม่บ้านชาวเยอรมันชื่อ “Melitta Bentz” ได้คิดค้นอุปกรณ์กรองแบบถ้วย โดยการเพิ่มตัวกรองแผ่นกลม ๆ ที่สร้างขึ้นจากอลูมิเนียมเจาะให้เป็นรู ก่อนที่จะนำกระดาษไปว่าด้านบนตัวกรอง หลังจากนั้นประสิทธิภาพตัวกรองก็พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนเป็นรูปทรงของ กรวย ต่อมาในยุค 1930
นอกจากการชงแบบ Pour-over แล้วเรายังมีเครื่องชงกาแฟสด แบบต่าง ๆ อีกมากมายนะครับ การชงแต่ละแบบก็จะทำให้รสชาติกาแฟแตกต่างกันออกไป โลกของกาแฟยังมีเรื่องให้เราเรียนรู้อีกมากมายเลยครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
Submit your review | |
เดี๋ยวว่างๆจะลองหาซื้อมาชงดื่มเอง